วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

จังหวัดชัยภูมิ

                                   จังหวัดชัยภูมิ

จังหวัดชัยภูมิ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2440 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงได้เปลี่ยนแปลงระบบการปกครองประเทศใหม่จัดเมืองต่าง ๆ เป็นมณฑล จังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน โดยรวมเอา 5 เมืองที่ขึ้นต่อเมืองนครราชสีมาในอดีต ได้แก่ เมืองชัยภูมิ เมืองสี่มุม (จัตุรัส) เมืองภูเขียว (ผักปัง) เมืองเกษตรสมบูรณ์ (บ้านยาง) และเมืองบำเหน็จณรงค์ (บ้านชวน) โดยเลือกเอาเมืองชัยภูมิ ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างสองเมืองใหญ่คือเมืองสี่มุม (จัตุรัส) และเมืองภูเขียว (ผักปัง) ยกฐานะเป็นศูนย์กลางของจังหวัด และเปลี่ยนเป็นอำเภอเมืองชัยภูมิ ยุบเมืองทั้ง 4 เป็นอำเภอ ได้แก่ อำเภอจัตุรัส อำเภอภูเขียว อำเภอเกษตรสมบูรณ์ และอำเภอบำเหน็จณรงค์ ต่อมาได้มีการยุบอำเภอบำเหน็จณรงค์ให้อยู่ในการปกครองของอำเภอจัตุรัส และยุบอำเภอเกษตรสมบูรณ์ให้อยู่ในการปกครองของอำเภอภูเขียว เนื่องจากอำเภอทั้ง 2 นั้นอยู่ไม่ไกลกัน จังหวัดชัยภูมิจึงเหลืออยู่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอจัตุรัส และอำเภอภูเขียว ที่เป็น 3 เมืองเสาหลัก ร่วมก่อตั้งจังหวัดชัยภูมิขึ้นมา และเจริญมาตามลำดับ ปัจจุบันจังหวัดชัยภูมิแบ่งการปกครองทั้งหมด 16 อำเภอ เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอันดับ 7 ของประเทศ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 12,778.3 ตารางกิโลเมตร เป็นที่ตั้งของแหล่งอารยธรรมอันเก่าแก่นับตั้งแต่สมัยทวารวดี สมัยขอม กระทั่งสมัยที่ได้รับอิทธิพลจากอาณาจักรล้านช้าง
ชัยภูมิมีเขตติดต่อกับจังหวัดเพื่อนบ้านหลายจังหวัด ได้แก่ ทิศเหนือ ติดกับเพชรบูรณ์และขอนแก่น ทิศตะวันออกติดกับขอนแก่นและนครราชสีมา ทิศตะวันตกติดกับเพชรบูรณ์และจังหวัดลพบุรี และทิศใต้ติดกับจังหวัดนครราชสีมา

                                                       ดอกกระเจีย
    ดอกไม้ประจำจังหวัด
  • สัญลักษณ์ประจำจังหวัด: รูปธงสามชาย หมายถึงธงแห่งชัยชนะสงคราม เดิมผู้ครองนครได้เลือกภูมิประเทศเพื่อตั้งเป็นเมือง พบว่าตรงจังหวัดนี้มีพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ทำเลเหมาะแก่การสู้รบป้องกันตัว จึงตั้งเมืองขึ้นและให้สัญลักษณ์เป็นรูปธงสามแฉก
  • คำขวัญประจำจังหวัด: ชัยภูมิ เมืองผู้กล้า พญาแล
  • คำขวัญเพื่อการท่องเที่ยว: ทิวทัศน์สวย รวยป่าใหญ่ มีช้างหลาย ดอกไม้งาม ลือนามวีรบุรุษ สุดยอดผ้าไหม พระใหญ่ทวารวดี

วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557

ของฝาก ผ้าไหมบ้านเขว้า

                                                               ผ้าไหมบ้านเขว้า




                                           ผ้าไหมบ้านเขว้า

เป็นผ้าไหมที่มีชื่อเสียงของชัยภูมิ เนื้อผ้าแน่นเนียน มันวาว เมื่อนำมาซักเนื้อผ้าไม่ยุบซึ่งถือเป็นลักษณะพิเศษของผ้าไหมที่นี่  ผ้าไหมมัดหมี่ลายขอน้อยเป็นงานที่ได้รับความนิยมอย่าง
มาก โดยสีที่นิยม คือ สีน้ำเงิน สีน้ำทะเล และสีเทา  หาซื้อได้ที่แหล่งผลิตที่บ้านเขว้า ต. บ้านเขว้า อ. บ้านเขว้า และตามร้านขายของฝากในตัวเมือง

ของฝากจังหวัดชัยภูมิ

               ของฝากจังหวัดชัยภูมิ

                           หม่ำ ไส้กรอก แหนมสด กุนเชียง
เป็นของฝากมีชื่อของ จ. ชัยภูมิ โดยเฉพาะหม่ำที่ทำจากเนื้อวัว ผสมตับ ข้าวเหนียว ข้าวคั่ว และเครื่องเทศ มีทั้งแบบที่ทำจากเนื้อหมูให้เลือกด้วย 
มีขายตามร้านริมถนนสายชัยภูมิ-สีคิ้ว ต. ในเมือง อ. เมือง  ร้านที่ขอแนะนำคือร้านรสดี

ไม่พัก...ก็แวะได้...เพลิน Pink ชมพู

                                  ไม่พัก...ก็แวะได้...เพลิน Pink ชมพู 
ไม่พัก...ก็แวะได้...หลักกม.พิศวง และ จุดถ่ายรูป "เพราะเรามีใจเดียวกัน" กับสวนตุ๊กตาการ์ตูน แห่งเดียวที่นี่ ณ.บ้านไร่อิงดอย....

สุดแผ่นดิน

                                                                             สุดแผ่นดิน
สุดแผ่นดิน

ขอบผาสูงชมวิวทิวทัศน์บริเวณรอบ ๆ ป่าหินงาม หน้า "ผาชะง่อนหิน" ที่.... "สุดแผ่นดิน" เป็นจุดชมวิวจากสันเขาพังเหย มองสู่ป่าเบื้องล่างบริเวณเขตอำเภอลำสนธิ บ้านหนองรี อันเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จังหวัดลพบุรี ถัดเหนือขึ้นไปอีกเล็กน้อยเป็นเขตอำเภอวิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ จุดชมวิวสุดแผ่นดินนี้เป็นหน้าผาสูงชัน และเป็นจุดสูงที่สุดของเทือกเขาพังเหย ความสูง 846 เมตร จากระดับน้ำทะเล เกิดจากการยกตัวของพื้นที่อันเป็นที่ราบสูงของภาคอีสาน ซึ่งเป็นรอยต่อของภาคกลาง กับภาคอีสาน ณ.บริเวณนี้เมื่อ 230 ล้านปีก่อน คาดว่าดินแดนแถบนี้เป็นทางน้ำไหล ผ่านพัดพาเอากรวดทรายหมุนวนอยู่ในแอ่งหินเล็ก ๆ นานปีเข้า กรวดเก่าหมดไปกรวดใหม่เข้ามาแทนที่ และหมุนกลิ้งอยู่ตอนล่างของแอ่ง ทำให้แอ่งเดิมโตขึ้นและลึกเข้าจนเป็นรูปหม้อ จะเห็นได้ชัดเจนเมื่อยืนอยู่บนหน้าผาและมองไปทาง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ นักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมายังที่นี่ จะไม่พลาดโอกาสที่จะมาโพสท์ท่า ถ่ายรูปบน "ผาชะง่อนหิน"ที่ยื่นออกไปในอากาศ ดั่งเช่นที่อุทยานฯภูกระดึง เพราะเป็นจุดชมวิวที่งดงามที่สุดของ "ผ่าสุดแผ่นดิน" นี้

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินเท้าท่องป่าดูธรรมชาติบนสันเขาพังเหย เป็นการเหมาะที่สุดโดยเดินลัดเลาะตามสันเขาจากบริเวณสุดแผ่นดิน อ้อมผ่านทุ่งดอกกระเจียวไปยังบริเวณลานหินงาม และหินหน่อ ระยะทางประมาณ 3 กม. จะพบพรรณไม้หลายชนิดให้ได้ชม พร้อมดอกไม้ป่าหลากหลายสวยงาม เช่น ต้นกระเจียวดอกสีขาว และ กระเจียวป่า หรือ ต้นบัวสรรค์ ซึ่งสามารถศึกษาได้อย่างเต็มตา

ฝีมือทอผ้าของชาวชัยภูมิไม่เป็นรองใคร

ิิิิิ                               ฝีมือทอผ้าของชาวชัยภูมิไม่เป็นรองใคร
                     ฝีมือทอผ้าของชาวชัยภูมิไม่เป็นรองใคร
โบราณสถานอีกแห่งหนึ่งที่สำคัญของเมืองชัยภูมิก็คือ “ปรางค์กู่” ปราสาทหินสมัยขอมที่ใช้เป็นอโรคยาศาล หรือสถานพยาบาลที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 18 มีปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง 1 องค์ วิหารหรือบรรณาลัยอยู่ด้านหน้า 1 หลัง ล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง บริเวณประตูหลอกด้านทิศเหนือยังคงมีทับหลังประดับอยู่เป็นภาพพระพุทธรูปประทับนั่งปางสมาธิเหนือหน้ากาลอีกด้วย

โบราณสถานสำคัญของเมืองชัยภูมิ

                     ปรางค์กู่ โบราณสถานสำคัญของเมืองชัยภูมิ
                                      ปรางค์กู่ โบราณสถานสำคัญของเมืองชัยภูมิ
เมืองชัยภูมินอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งแล้ว ยังมีโบราณวัตถุชิ้นสำคัญของไทยที่ขุดค้นพบที่นี่ นั่นก็คือพระพุทธรูปใหญ่สมัยทวารวดี เป็นพระพุทธรูปหินทรายแกะสลักองค์ใหญ่รูปทรงงดงาม สร้างขึ้นในสมัยทวารวดี เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านซึ่งเรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” นอกจากนั้นก็ยังพบเสมาหินทรายแกะสลักและไม้แกะสลักหลายชิ้นอีกด้วย ผู้ที่ต้องการชมต้องไปยังวัดคอนสวรรค์ ในอำเภอคอนสวรรค์
       
       ส่วนที่ “วัดศิลาอาสน์ ภูพระ” ในอำเภอเมือง เป็นอีกวัดหนึ่งที่ชาวชัยภูมิให้ความเคารพ และยังขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานอีกด้วย จุดสำคัญคือในบริเวณวัดจะมีเพิงผาหินจำหลักเป็นภาพพระพุทธรูปองค์ใหญ่ หน้าตักกว้าง 5 ฟุต ปางสมาธิเพชร พระหัตถ์ขวาวางอยู่ที่พระเพลา พระหัตถ์ซ้ายพาดอยู่บนพระชงฆ์ ชาวบ้านเรียกท่านว่า "พระเจ้าองค์ตื้อ" และบริเวณใกล้เคียงก็ยังมีก้อนหินที่สลักเป็นรูปพระสาวกอีก 7 องค์ด้วยกัน มีผู้สันนิษฐานว่าพระพุทธรูปสลักจากหินเหล่านี้มีอายุอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18-19 คนที่ไปไหว้มักจะขอพระเจ้าองค์ตื้อในเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และอีกอย่างหนึ่งคือขอบุตรจากท่าน